ดร. รุจิระ บุนนาค
คอลัมน์ แนวหน้าออนไลน์ กฎ กติกา ธุรกิจ
เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2567
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ตำรวจท่องเที่ยวได้จับกุมชายสัญชาติลักเซมเบิร์ก สวมรอยเป็นไกด์เถื่อน พานักท่องเที่ยวต่างประเทศกลุ่มใหญ่ขี่สกู๊ตไฟฟ้าเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆ รอบเกาะรัตนโกสินทร์ เมื่อถูกจับกุมได้อ้างว่าทำหน้าที่เป็นเพียงล่าม
หลังจากที่สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทยได้ยื่นหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการต่อกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อต้นเดือนกันยายน 2567 กระทรวงได้เร่งออกมาตรการกวดขัน ปราบปรามมัคคุเทศก์เถื่อน ทัวร์ผีทุกภาษาอย่างจริงจัง เนื่องจากพบว่า มีชาวต่างชาติลักลอบเข้ามาสวมรอยเป็นมัคคุเทศก์หรือไกด์ แย่งอาชีพสงวนตามกฎหมายของคนไทยเป็นจำนวนมาก
มัคคุเทศก์หรือไกด์นำเที่ยว เป็นอาชีพสงวนตามกฎหมายสำหรับคนไทย ตามมาตรา 7 วรรคหนึ่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2561 บัญชี 1 ลำดับที่ 22) จัดเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดี
มัคคุเทศก์ไทยจะทำหน้าที่เป็นทั้งผู้นำเที่ยว (tour leader หรือ guide)ในสถานที่ต่างๆ และล่ามผู้บรรยายให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติของไทย ในภาษาสัญชาติของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือในภาษาที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใจ ทำให้ง่ายต่อความเข้าใจและซาบซึ้งด้วยศิลปะท่วงทีการใช้ภาษาในการบรรยาย สร้างความประทับใจ และพึงพอใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ผู้ทำหน้าที่มัคคุเทศก์จะต้องผ่านการอบรมและขึ้นทะเบียนใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์จากกรมการท่องเที่ยว รวมถึงเจ้าของสถานประกอบการธุรกิจนำเที่ยวด้วย ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559
กฎหมายกำหนดให้มีมัคคุเทศก์ 1 คน ต่อจำนวนนักท่องเที่ยว50 คน ตามประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่องหลักเกณฑ์การจัดให้มีมัคคุเทศก์ต่อจำนวนนักท่องเที่ยว พ.ศ. 2566โดยใบอนุญาตมัคคุเทศก์มีประเภททั่วไป ท้องถิ่น และภูมิภาค ใบอนุญาตมีอายุคราวละ 5 ปี ขณะทำหน้าที่จะต้องมีใบอนุญาตแสดงตลอดเวลา
ประเทศไทยเป็นประเทศเสรีที่คนไทยมีรอยยิ้มและน้ำใจไมตรี ต้อนรับ เอื้อเฟื้อ ให้เกียรติ แก่บรรดาชาวต่างชาติผู้มาเยือนเสมอ ถือเป็นขนบธรรมเนียมปฏิบัติสืบทอดกันมา
ความที่คนไทยมีจิตใจโอบอ้อมอารีและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กลับกลายเป็นปัญหา ทำให้ชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากเข้ามาในประเทศไทย แล้วลักลอบ แทรกแซง แย่งอาชีพคนไทย ที่เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทยมากมายหลายอาชีพ อาทิ ช่างตัดผม/เสริมความงาม, ตัวแทน/นายหน้า, ขายของ, งานบริการทางกฎหมาย และบัญชี โดยแฝงตัวเข้ามาในรูปแบบต่างๆ
ทั้งที่นายจ้างและชาวต่างชาติผู้ฝ่าฝืนต้องได้รับโทษตามกฎหมาย โดยนายจ้างมีโทษปรับ สูงสุดถึง 100,000 บาท ต่อการจ้างแรงงานต่างด้าวเถื่อน 1 คน และหากทำผิดซ้ำ จะมีโทษปรับ 50,000-200,000 บาท โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และขึ้นบัญชีห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวอีก 3 ปี
ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับ 5,000-50,000 บาท และจะถูกส่งกลับประเทศตามสัญชาติ
กรณีตำรวจท่องเที่ยวจับกุมชาวต่างชาติ สัญชาติลักเซมเบิร์ก ที่ลักลอบทำงานเป็นมัคคุเทศก์หรือไกด์ ตามที่เป็นข่าว เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างเล็กๆ เท่านั้นเอง
การสอดส่องดูแล การลักลอบทำงานของชาวต่างชาติในประเทศไทย จะอาศัยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงาน ถือว่าไม่เพียงพอ เพราะไม่อาจสอดส่องดูแลได้ทั่วถึง
สมาคม หรือองค์กร ทางด้านวิชาชีพต่างๆ ที่ชาวต่างชาติ ลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย ควรแสดงบทบาทและความรับผิดชอบอย่างจริงจัง ในการสงวนรักษาอาชีพ ตลอดจนปกป้องผลประโยชน์ของคนไทยที่เป็นเจ้าของประเทศ
…………….