เพลิงไหม้ระบาด

ดร. รุจิระ บุนนาค

คอลัมน์ แนวหน้าออนไลน์ กฎ กติกา ธุรกิจ

เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ช่วงเมษายน 2567 ที่ผ่านมาปรากฏข่าวไฟไหม้โรงงานชื่อดัง ตั้งอยู่ในละแวก อำเภอ บ้านค่าย จังหวัดระยอง โรงงานดังกล่าว ประกอบกิจการประเภทรับจ้าง รีไซเคิลสารเคมีใช้แล้วและกำจัดสารเคมีซึ่งเป็นของเสียที่ใช้แล้ว 

นอกจากไฟจะลุกลามไปยังที่ข้างเคียงของผู้อาศัยในละแวกนั้น แล้ว ไอระเหยสารเคมีที่ถูกไฟเผา ยังกระจายคละคลุ้งไปทั่วบริเวณสร้างความเดือดร้อนแก่ชุมชนผู้อาศัยอยู่โดยรอบ และบริเวณรัศมีใกล้เคียงที่ไอระเหยของสารเคมีลอยไปถึงเป็นบริเวณกว้างใหญ่            

โรงงานนี้ มีความเชื่อมโยงทางการค้ากับโรงงานอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการในลักษณะคล้ายกัน  ที่ตั้งอยู่แถบ อำเภอภาชี จังหวัด พระนครศรีอยุธยา  ซึ่งเกิดเพลิงไหม้ในเวลาไล่เลี่ยกัน ช่วงพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา หลังพบว่า ลักลอบ ขนย้ายและจัดเก็บสารเคมีอันเป็นวัตถุอันตราย                 

หากย้อนรอยเรื่องราวไปในอดีตจะพบว่า โรงงานเดียวกันนี้ ในช่วงปลายปี 2565ศาลได้พิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่บรรดากลุ่มชาวบ้านผู้ร้องเรียน ซึ่งอาศัยอยู่ในละแวกหนองพะวา จังหวัดระยอง  ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากไอที่ระเหยซึ่งส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงจากหลุมฝังกลบ ของเสียกากอุตสาหกรรมซึ่งเป็นวัตถุอันตรายในครอบครองโดยไม่ถูกกฎหมาย

สาเหตุของเพลิงไหม้ระบาดมีข้อสังเกตที่น่าสงสัยว่า อาจสืบเนื่องมาจากเจตนาทำลายหลักฐานทางคดี หรือประสงค์เงินประกันวินาศภัย  หักล้างหนี้สิน เพราะนอกจากสองโรงงานดังกล่าวนี้แล้ว ยังมีโรงงาน โกดังของบริษัทอื่นๆ ทยอยกันเกิดเพลิงไหม้ตามๆ กันมาในเวลาใกล้เคียงกันต่อมา

หากย้อนไปในอดีต 30 ปีที่ผ่านมาเมื่อประมาณปี 2537 เป็นต้นมา   ได้เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าต่อเนื่อง จนเป็นเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าระบาด เพราะเพลิงไหม้มีลักษณะคล้ายคลึงกันอย่างเป็นนัยสำคัญเริ่มที่ ห้างสรรพสินค้านอริส ซิตี้  ห้างสรรพสินค้าใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เหตุเกิดช่วงราวปลายปี 2537 ถัดมาเป็นห้างสรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า จังหวัดขอนแก่น เหตุเกิดช่วงปี 2538 ต่อมาเกิดขึ้นที่ห้างเซ็นทรัล สาขาชิดลม ย่านราชประสงค์ ห้างสรรพสินค้าดังใจกลางกรุงเทพมหานคร ในช่วงปีเดียวกัน และยังมีอีกหลายห้างในจังหวัดต่างๆ ในช่วงเวลานั้น

เหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากจะสร้างความเสียหาย เดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่อาศัยใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 80  แทบจะไม่มีใครได้ทำประกันวินาศภัยไว้ ความเสียหายยังรวมถึงทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ป่าไม้ หรือ  แหล่งเพาะปลูก หากเกิดอัคคีภัยในย่านป่าสงวนหรือเขตเกษตรกรรม ซึ่งผู้ก่อความเสียหายต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาลแล้ว ยังถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญาที่ต้องรับโทษทางอาญา

เงื่อนไขการเรียกร้อง ค่าเสียหายหรือค่าสินไหมจากประกันวินาศภัยมีมูลค่าสูงอาจเป็นส่วนหนึ่งของแรงจูงใจ วางเพลิงให้เกิดเพลิงไหม้

แต่เงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยส่วนใหญ่ จะมีข้อยกเว้นและมีขั้นตอนการตรวจสอบต้นเหตุแห่งวินาศภัยที่เกิดจากอัคคีภัยซึ่งหากเกิดจากการจงใจของผู้เอาประกันผู้รับประกันจะไม่ต้องรับผิด ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น

ในยุคปัจจุบัน การทำประกันวินาศภัย คุ้มครองอัคคีภัยสำหรับ ห้องชุดในอาคารชุดหรือ คอนโดมิเนียม  บ้านอาคาร ที่อยู่อาศัย เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้อยู่อาศัยในเมือง

ไม่ว่าประกันภัยจะมีเงื่อนไขให้ประโยชน์แก่ผู้ประเอาประกัน และผู้รับประโยชน์ ดีเพียงใด“ความไม่ประมาท” ไม่ก่อให้เกิดวินาศภัย ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด                                                  ………………………..                                                              

Marut Bunnag Copyright @2020

 


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
Cookie policy for development and experience and the experience of use that has previously been studied in detail in the policy and can be controlled by controlling the installation.setting

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
You can choose your cookie settings by turning them on/off. Cookies in each category can be customized according to your needs, except for essential cookies.

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Policy

1. Send only queries related to laws only.
2. Do not use rude words, or words which implicate other persons.
3. The sender of a message to the legal board must be responsible for his/her statement.

เงื่อนไขการใช้งานกระทู้คำถาม

1.สำหรับส่งคำถามที่เกี่ยวกับข้อกฎหมายเท่านั้น
2.ห้ามมีคำหยาบคาย พาดพิงบุคคลอื่น ทำให้เกิดความเสียหาย
3.ผู้ที่ส่งคำถามลงในกระดานกฏหมาย ต้องมีความรับผิดชอบต่อข้อความนั้น