รัฐบาลกับการโยกย้ายที่(ไม่)เป็นธรรม
ลงพิมพ์ในแนวหน้า : 28 มิถุนายน 2556
ดร. รุจิระ บุนนาค
28 มิถุนายน 2556

ตามที่นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ และอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ยื่นฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 เรื่องกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กรณีที่ถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรมตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 152/2554 ลงวันที่ 7 กันยายน พ.ศ.2554 ซึ่งนายถวิล เห็นว่า การโยกย้ายนั้นเพื่อเปิดทางให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รับตำแหน่งเลขาธิการ สมช.แทน เพื่อผลักดันให้พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับรัฐบาล ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. คำสั่งโยกย้ายจึงไม่ใช่เพื่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ จึงขอให้ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำสั่งโยกย้ายดังกล่าวและสั่งให้นายถวิล กลับไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช.

           ต่อมา  เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.  2556 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 635/2555  
           สั่งให้ยกเลิกคำสั่งย้ายนายถวิลไปเป็นที่ปรึกษาที่สำนักนายกฯ กลับมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช.โดยเร็ว 
           เนื่องจากเห็นว่า การรับโอนเป็นไปอย่างเร่งรีบ และไม่ชอบด้วยจริยธรรม 
           อีกทั้งนายถวิลเป็นผู้มีความรู้ความสามารถงานด้านความมั่นคง มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบมากกว่า 
           และสามารถเป็นที่ปรึกษาโดยตำแหน่งอยู่แล้ว    

ตอนนี้หลายฝ่ายคงจับตามองว่าทางรัฐบาลจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดหรือไม่? หากไม่ยื่นอุทธรณ์ก็ถือว่าคดีถึงที่สุด ก็ต้องไปดำเนินการเพิกถอนคำสั่งต่าง ๆ ตามกฎหมายหากจะอุทธรณ์ต้องยื่นอุทธรณ์ต่อศาลภายใน 30 วัน ซึ่งในขณะนี้ได้มีการมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณารายละเอียดและข้อกฎหมายทั้งหมด ว่าจะสามารถอุทธรณ์ได้ในประเด็นใด และควรจะอุทธรณ์หรือไม่

หากมีการยื่นอุทธรณ์ ก็ต้องเตรียมชี้แจงต่อกลุ่มสื่อมวลชน หรือประชาชนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย เพราะสามารถพิจารณาได้ว่าเป็นการไม่ยอมรับผลคำพิพากษา ใช้อำนาจโดยมิชอบ เป็นการกลั่นแกล้งข้าราชการด้วยการโยกย้าย แม้การอุทธรณ์จะเป็นสิทธิตามกฎหมาย ก็ควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่ามีความถูกต้องและชอบธรรมหรือไม่ ประเด็นในการอุทธรณ์สมเหตุสมผลเพียงใด

รัฐบาลเองย่อมทราบดีว่า การโยกย้ายตำแหน่งขัดต่อระเบียบจริงหรือไม่? หากจริงก็ควรต้องยอมรับในผลคำพิพากษา เมื่อมีเหตุก็ต้องมีผล

ในอดีตก็เคยมีข้าราชการร้องเรียนการโยกย้ายไม่เป็นธรรม เช่น กรณีนายจาดุร อภิชาตบุตร ที่ถูกย้ายจากรองปลัดนายกรัฐมนตรีไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และให้นายจาดุรกลับไปดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีตามเดิม ซึ่งรัฐบาลได้ยื่นอุทธรณ์ แต่ในที่สุดศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาตามศาลปกครองกลางให้นายจาดุร เป็นฝ่ายชนะคดี และได้กลับไปดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีก่อนเกษียณอายุราชการเพียง 2 เดือน

สำหรับนายถวิลเองมีความพอใจต่อคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตามนายถวิลเห็นว่า ยังมีข้าราชการอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม และต้องการให้ข้าราชการอื่น ๆลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม

ในปีพ.ศ. 2556 นี้เป็นปีที่นายถวิลมีอายุครบ 60 ปีบริบรูณ์ แม้จะมีการคืนตำแหน่งให้ ก็เป็นที่น่าเสียดายที่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่นานก็ต้องเกษียณอายุราชการ

นับแต่นี้ก็ต้องจับตามองว่า รัฐบาลจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่? ซึ่งนายถวิลเองก็เคยยืนยันว่าจะใช้สิทธิที่มีอยู่ต่อสู้อย่างถึงที่สุด

ทางด้านพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ถูกย้ายจากผบ.ตร. ไปเป็นเลขาธิการสมช. ซึ่งในตอนแรกมีท่าทีว่าจะมีการต่อสู้จนถึงที่สุด แต่เป็นเลขาธิการสมช. ได้เพียงปีเดียวก็ถูกย้ายไปเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม เรื่องก็เงียบหายไป ซึ่งท่าทีเปลี่ยนแปลงไปผิดกับตอนแรกเป็นอย่างมาก

เรื่องของนายถวิล เปลี่ยนศรี หากมองว่าเป็นกรณีของข้าราชการเพียงคนหนึ่งที่ถูกย้าย ก็จะเป็นเพียงกรณีเล็ก ๆ เป็นเรื่องทั่วไปที่ข้าราชการต้องมีการย้าย ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดผลอะไรเท่าใดนัก แต่ถ้ามองว่าเป็นต้นแบบของการต่อสู้ อาจทำให้ข้าราชการหลายคนที่ถูกย้ายไม่เป็นธรรม เกิดขวัญและกำลังใจที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้ เพราะการโยกย้ายตำแหน่งควรพิจารณาถึงหน่วยงานที่รับโอนและหน่วยงานที่โอน ไม่ใช่โอนโดยเพื่อความสัมพันธ์(ทางการเมือง)

Marut Bunnag Copyright @2020

 


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
Cookie policy for development and experience and the experience of use that has previously been studied in detail in the policy and can be controlled by controlling the installation.setting

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
You can choose your cookie settings by turning them on/off. Cookies in each category can be customized according to your needs, except for essential cookies.

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Policy

1. Send only queries related to laws only.
2. Do not use rude words, or words which implicate other persons.
3. The sender of a message to the legal board must be responsible for his/her statement.

เงื่อนไขการใช้งานกระทู้คำถาม

1.สำหรับส่งคำถามที่เกี่ยวกับข้อกฎหมายเท่านั้น
2.ห้ามมีคำหยาบคาย พาดพิงบุคคลอื่น ทำให้เกิดความเสียหาย
3.ผู้ที่ส่งคำถามลงในกระดานกฏหมาย ต้องมีความรับผิดชอบต่อข้อความนั้น