ครม.ฮันนีมูน

ดร. รุจิระ บุนนาค

คอลัมน์ แนวหน้าออนไลน์ กฎ กติกา ธุรกิจ

เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2568

ฮันนีมูน (Honeymoon)เป็นภาษาต่างประเทศ หมายถึง การดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ หรือการเดินทางพักผ่อนของคู่บ่าวสาวหลังแต่งงาน เพื่อเฉลิมฉลองชีวิตสมรสใหม่ เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน และใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างเต็มที่ในบรรยากาศใหม่ๆ  อย่างมีความสุข เทียบได้กับสำนวนไทยที่ว่า  น้ำต้มผักขม ยังชมว่าหวาน 

แต่หากเป็นบรรยากาศทางการเมืองของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล คำว่า “ครม.ฮันนีมูน”มีความหมายคล้ายกับคำว่า ฮันนีมูน ของคู่รักทั่วไป เพราะเป็นช่วงที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ อาจรู้สึกตื่นเต้นกับการรับงานใหม่ ในขณะเดียวกันสาธารณชนจะให้เวลารัฐบาลใหม่ทำงานช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มวิพากษ์วิจารณ์อย่างเต็มที่

พรรคภูมิใจไทย โดย หัวหน้าพรรคอนุทิน ชาญวีรกูล และพรรคประชาชน โดยหัวหน้าพรรค ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ได้ทำข้อตกลงทางการเมือง หรือที่เรียกกันว่า MOA (Memorandum of Agreement)อันลือลั่น เพื่อให้พรรคภูมิใจไทยมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

โดยมีเงื่อนไขที่สำคัญคือ ยุบสภาผู้แทนราษฎร ภายใน 4 เดือน เพื่อจัดเลือกตั้งใหม่  แก้ไขรัฐธรรมนูญ และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน

แม้พรรคประชาชนจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า การตัดสินใจดำเนินการเช่นนี้เปรียบเสมือนเป็นนั่งร้าน ให้รัฐบาลภูมิใจไทย จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยซึ่งอาจเป็นเพราะขาดประสบการณ์ทางการเมือง จึงตัดสินใจเช่นนั้น

แต่ในความคิดของพรรคประชาชนอาจมองอีกด้านหนึ่ง เพราะพรรคประชาชนทราบดีว่า ผลสำรวจประชามติในขณะนี้ หากเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ พรรคประชาชนจะได้รับเลือกและมีจำนวน สส. มากที่สุด จนอาจเป็นพรรคเดียวที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงเป็นที่มาของการเร่งวันเร่งคืนให้ยุบสภา เพื่อให้มีเลือกตั้ง สส. ใหม่

อีกด้านหนึ่ง พรรคประชาชนรู้ดีว่า จะหาพรรคอื่นเข้าร่วมเพื่อจัดตั้งรัฐบาลด้วยได้ยากภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เพราะมีแนวความคิดที่ไม่เหมือนพรรคการเมืองอื่น และค่อนข้างแรง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสถาบัน และเรื่องการเมืองทั่วๆไป

คนทั่วไปที่มองพรรคประชาชน ส่วนหนึ่งยังมีความรู้สึกว่า แม้ สส. พรรคประชาชนหลายคนจะมีคุณภาพ พูดเก่งวิพากษ์วิจารณ์เก่ง แต่ยังไม่ค่อยแน่ใจหากมีโอกาสเข้ารับตำแหน่งบริหารประเทศ เพราะยังไม่เห็นว่า มีประสบการณ์ในการบริหารองค์กรระดับใหญ่มาก่อน

ในด้านของพรรคภูมิใจไทย อาจมองว่า แม้จะได้เป็นรัฐบาลในช่วงระยะเวลาอันสั้น แต่หากฝากฝีมือการบริหารประเทศ และแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจได้พอสมควร จะพลิกเกมทำให้เป็นต่อ และมีโอกาสในการเลือกตั้งใหม่จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง

แม้รัฐบาลใหม่จะมีข้อตกลงว่าต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน แต่ตามความเป็นจริงแล้ว อาจอยู่ในตำแหน่งนานจนถึง 8-9 เดือน เพราะต้องรักษาการณ์จนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จ และจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว หรืออาจอยู่นานกว่านั้นอีก หากมีเหตุการณ์ หรือสถานการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในอนาคต

ในด้านเศรษฐกิจ จะเห็นว่า พรรคภูมิใจไทยได้คัดเลือกบุคคลภายนอกที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ว่าจะเป็น ศุภจี สุธรรมพันธุ์ นักบริหารมืออาชีพระดับหนึ่งของประเทศ ให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศอดีตข้าราชการกระทรวงการคลังระดับสูง ซึ่งเป็นถึงอดีตอธิบดีกรมสรรพากร อดีตอธิบดีกรมสรรพสามิต ที่รู้เรื่องการเงินการคลังเป็นอย่างดี ให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

หากบริหารแล้วเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น ยังมีข้ออ้างได้ว่า ได้หาคนที่มีความรู้ความสามารถระดับที่ยอดเยี่ยมของประเทศมาทำงานให้แล้ว แต่มีเวลาทำงานช่วงสั้นเกินไป จึงไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง ซึ่งเป็นเหตุผลที่พอรับฟังได้

ในด้านที่น่าสนใจคือ รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ได้แสดงท่าทียอมรับว่า นโยบายหรือโครงการใดที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาลไหนหรือของใครหากเห็นว่าดีจะนำมาใช้ ซึ่งรวมถึงโครงการ คนละครึ่ง ที่เป็นของรัฐบาลสมัยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี นำมาปัดฝุ่นและปรับเปลี่ยน เพื่อนำมาใช้ใหม่

โครงการ คนละครึ่ง ที่จะนำมาใช้ ได้รับการขานรับด้วยดี ไม่ว่าจะทั้งจากภาคเอกชน และภาครัฐบาล เพราะเชื่อว่า น่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ได้จริง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับโครงการแจกเงินดิจิทัล หรือคนละ 10,000 บาท ของรัฐบาลเพื่อไทย ในยุคที่ผ่านมา ซึ่งพอเอาเข้าจริง ต้องโยกย้ายจัดสรรงบประมาณ กันจนเป็นที่วุ่นวาย หากเป็นสำนวนไทยจะเป็นขายผ้าเอาหน้ารอด เพราะจนทุกวันนี้ ไม่ได้เป็นพายุหมุน เหมือนราคาคุย และยังไม่สามารถแจกให้ได้ทุกคน ตามที่โฆษณาไว้

ที่สำคัญคือ การโยกย้ายเปลี่ยนแปลงงบประมาณเพื่อแจกเงินดิจิทัล ได้มีคนจองกฐินรอเช็คบิลไว้แล้ว เพราะถือว่าทำผิดกฎหมายการเงินการคลัง ขณะนี้ได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบแล้ว

รัฐบาลใหม่ของไทย มีจำนวนรัฐมนตรีทั้งหมด 35 คนตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน สมัยก่อนคณะรัฐมนตรีมีมากถึง40 กว่าคน เปรียบเสมือนนักเรียนห้องใหญ่หนึ่งห้องที่ครูประจำชั้นอาจจำชื่อนักเรียนของตนไม่ได้ทั้งหมดทุกคน และเพื่อนร่วมห้องไม่ได้รู้จักคุ้นเคยกันทุกคน

จำนวนรัฐมนตรีไทย นับว่ามีจำนวนมาก อาจถือได้ว่า ประเทศไทยเป็นรัฐบาล ที่มีรัฐมนตรีเป็นจำนวนมากที่สุดในโลกสมศักดิ์ศรีของประเทศไทย ซึ่งเป็นมหาอำนาจประเทศหนึ่ง เพราะเราจำเป็นต้องมีรัฐมนตรีช่วย ในแต่ละกระทรวงเป็นจำนวนมาก เพื่อให้การจัดสรรตำแหน่งทางการเมือง และคานอำนาจทางการเมืองกันอย่างสมดุล

หากเปรียบเทียบกับประเทศอื่น เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา มี รัฐมนตรีเพียงแค่ 26 คน และประเทศสหราชอาณาจักร หรือที่คนไทยคุ้นเคยเรียกกันว่า ประเทศอังกฤษ มีรัฐมนตรีเพียงแค่ 22 คน เท่านั้น

เหตุที่ประเทศอื่นมีจำนวนรัฐมนตรีน้อย เป็นเพราะไม่มีรัฐมนตรีช่วย หรือมีแต่น้อย เนื่องจากแต่งตั้งตำแหน่งอื่นแทน ที่เรียกว่า ผู้ช่วยรัฐมนตรี แม้ศักดิ์ศรีจะดูไม่เท่ากับรัฐมนตรีช่วย แต่การทำงานและความรับผิดชอบแทบไม่แตกต่างกัน

ข้อตกลงทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน อาจดูเหมือนว่า มีการได้เปรียบเสียเปรียบกัน แต่ความจริงแล้ว ต่างฝ่ายต่างมองไปข้างหน้า และใช้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นเครื่องมือเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองในอนาคต

ดร.รุจิระ บุนนาค

กรรมการผู้จัดการ

Marut Bunnag International Law Office

rujira_bunnag@yahoo.com

Twitter : @RujiraBunnag

Marut Bunnag Copyright @2020

 


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
Cookie policy for development and experience and the experience of use that has previously been studied in detail in the policy and can be controlled by controlling the installation.setting

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
You can choose your cookie settings by turning them on/off. Cookies in each category can be customized according to your needs, except for essential cookies.

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า

Policy

1. Send only queries related to laws only.
2. Do not use rude words, or words which implicate other persons.
3. The sender of a message to the legal board must be responsible for his/her statement.

เงื่อนไขการใช้งานกระทู้คำถาม

1.สำหรับส่งคำถามที่เกี่ยวกับข้อกฎหมายเท่านั้น
2.ห้ามมีคำหยาบคาย พาดพิงบุคคลอื่น ทำให้เกิดความเสียหาย
3.ผู้ที่ส่งคำถามลงในกระดานกฏหมาย ต้องมีความรับผิดชอบต่อข้อความนั้น