ลงพิมพ์ในแนวหน้า : 25 มิถุนายน 2564
ดร. รุจิระ บุนนาค
25 มิถุนายน 2564
เสาไฟส่องสว่างตามท้องถนน จะมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม เช่น เสาไฟถนนกิ่งเดี่ยว , เสาไฟกิ่งคู่ , เสาไฟตรง ที่มีความสูงตั้งแต่ 2 – 14 เมตร ปกติโครงเหล็กต้องมีคุณภาพผ่านการับรองมาตราฐานระบบ ชุบกัลวาไนซ์ เพื่อจะได้ทนต่อทุกภาพอากาศได้เป็นอย่างดี ป้องกันการกัดกร่อนของสนิม ตลอดอายุการใช้งาน บริเวณโคนจะมีช่องเซอร์วิส เพื่อง่าย และสะดวกต่อการบำรุงรักษา สามารถติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมภายในเสาไฟได้
การเลือกใช้งานของหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นกรมทางหลวง กรมโยธาธิการ กรมผังเมือง เทศบาลและอื่นๆ จะต้องทำการสำรวจพื้นที่ที่จะติดตั้งเสาไฟว่าควรใช้เสาไฟประเภทใด เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินงบประมาณตลอดจนภาษีของประชาชน
เสาไฟกินรีขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ราชาเทวะ จังหวัดสมุทรปราการ กลายเป็นข่าวใหญ่ ปรากฏผ่านการงานรายข่าวของสื่อหลายสำนัก ไม่ใช่ว่าจะเป็นข่าวเกี่ยวกับประติมากรรมความสวยงามของเสาไฟ แต่ที่เป็นข่าวใหญ่โตที่คนพากันวิพากษ์วิจารณ์ปากต่อปากจนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ เพราะเสาไฟถูกตั้งในพื้นที่ที่ถนนยังไม่ได้รับการพัฒนา พื้นที่ที่ไม่มีประชาชนใช้เป็นทางสัญจร บางพื้นที่มีการติดตั้งถี่หรือติดกันเกินไป
ทางด้านนายก อบต.ราชาเทวะ ได้ออกมาชี้แจงว่า ถนนสายดังกล่าวนี้ไม่ได้เป็นถนนร้าง แต่ที่ดูรกร้าง เพราะมีหญ้าขึ้น เนื่องจากเวลานี้เป็นช่วงฤดูฝน
เมื่อเรื่องกลายเป็นประเด็นใหญ่โต เป็นที่จับตามองของสื่อต่างๆ และประชาชน ทำให้มีการตรวจสอบข้อมูลการใช้งบประมาณระหว่างปีพ.ศ. 2562-2564 พบว่าที่ผ่านมา อบต.ราชาเทวะ มีการจัดจ้างโครงการลักษณะเช่นเดียวกันนี้ทั้งหมด 7 โครงการ ได้แก่
(1) โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ไฟฟ้าและวิทยุ เสาไฟประติมากรรมกินรีพร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ชนิดกิ่งเดี่ยวพร้อมติดตั้ง จำนวน 1,811 ต้น งบประมาณ 171,840,000 บาท
(2) โครงการประกวดราคาซื้อจัดซื้อครุภัณฑ์ไฟฟ้าและวิทยุ เสาไฟประติมากรรมกินรีพร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ชนิดกิ่งเดี่ยว พร้อมติดตั้งบริเวณริมคลองลาดกระบังจำนวน 600 ต้น งบประมาณ 56,950,000 บาท
(3) โครงการจัดซื้อเสาไฟประติมากรรมกินรีพร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ชนิดกิ่งเดี่ยว พร้อมติดตั้งภายในตำบลราชาเทวะ จำนวน 536 ต้น งบประมาณ 50,920,000 บาท
(4) โครงการจัดซื้อเสาไฟประติมากรรมกินรีพร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ชนิดกิ่งเดี่ยว จำนวน 347 ต้น พร้อมติดตั้งภายในเขตตำบลราชาเทวะ จำนวน 16 จุด งบประมาณ 32,950,000 บาท
(5) โครงการจัดซื้อเสาไฟประติมากรรมกินรีพร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ชนิดกิ่งเดี่ยว จำนวน 788 ต้น พร้อมติดตั้งภายในเขตตำบลราชาเทวะ จำนวน 2 จุด งบประมาณ 74,760,000 บาท
(6) โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสาไฟประติมากรรมกินรีพร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ชนิดกิ่งเดี่ยว พร้อมติดตั้งภายในเขตตำบลราชาเทวะ จำนวน 1,235 ต้น งบประมาณ 117,150,000 บาท
(7) โครงการจัดซื้อเสาไฟประติมากรรมกินรีพร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ชนิดกิ่งเดี่ยว พร้อมติดตั้งภายในเขตตำบลราชาเทวะ จำนวน 1,456 ต้น งบประมาณ 138,080,000 บาท
ทั้ง 7 โครงการ มีเสาไฟฟ้าจำนวน 6,773 ต้น มูลค่ารวมทั้งสิ้น 642,650,000 บาท เฉลี่ยต้นละ 94,884 บาท ที่น่าแปลกใจ คือ ทั้ง 7โครงการ มีบริษัท บางกอกไฟถนน จำกัด เพียงบริษัทเดียวที่ได้รับงานทั้งหมด ทั้งที่มีบริษัทอื่นเสนอราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง แต่กลับไม่ชนะการประมูล
ในตอนแรกนายกอบต.ราชาเทวะได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เสาไฟฟ้าแต่ละต้น ห่างต้นละ 20 เมตร แต่เมื่อเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ( ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบกลับพบว่า แต่ละต้นมีระยะห่างไม่สม่ำเสมอกัน โดยทิ้งห่างตั้งแต่ระยะ 10-14 เมตร ทางด้านนายกอบต.ราชาเทวะ จึงกลับลำบอกว่า ชาวบ้านร้องเรียนว่าแสงสว่างไม่เพียงพอ จึงต้องติดถี่ขึ้น
บริษัท บางกอกไฟถนน จำกัด เป็นบริษัทหนึ่งที่กว้างขวางในธุรกิจติดตั้งเสาไฟ ประติมากรรม ชนะการประมูลงานหลายจังหวัดทั่วประเทศ จากระบบข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐ ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล พบว่า บริษัท บางกอกไฟถนน จำกัด ได้งานโครงการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐทั่วประเทศ 287 โครงการ รวมมูลค่า 1,361.95 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดเป็นโครงการเกี่ยวกับการติดตั้งเสาไฟประติมากรรม โคมไฟ และระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เช่น มิถุนายน พ.ศ. 2562 ได้งานเสาไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ ของ อบจ.อ่างทอง ชนะการประมูล 11 สัญญา วงเงินประมาณ 100 ล้าน สิงหาคม พ.ศ. 2563 ชนะการประกวดราคา เสาไฟประติมากรรม นกยูง 81 ต้น ที่ จังหวัดพะเยา ของกรมการปกครอง มูลค่า 7,800,000 บาท
เสาไฟกินรีอบต.ราชาเทวะ จังหวัดสมุทรปราการ ได้กลายมาเป็นต้นกำเนิดที่นำไปสู่การตั้งคำถามของประชาชนว่า เสาไฟลักษณะที่คล้ายคลึงกันมีความจำเป็นเพียงใด ทำให้เกิดการตรวจสอบทุจริตทั่วประเทศตามมา ซึ่งนับได้ว่ามีประโยชน์ต่อการตรวจสอบการใช้งบประมาณและภาษีของประชาชน
ทำให้มีการเผยภาพ “เสาไฟปลาบึกเสียบไม้” ประติมากรรมปูนปั้นจำนวน 22 ต้น ที่สวนสาธารณะปลาบึก 7 สี บริเวณใกล้ท่าเรือบั๊ก บ้านหัวเวียง ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย สร้างประมาณปีพ.ศ. 2560 ใช้งบประมาณราว 1,400,000 บาท ตกต้นละ 65,000 บาท
ทั้งยังมีการเผยภาพเสาไฟฟ้ารูปเรือสุพรรณหงส์กว่า 10 ต้น ตั้งอยู่ริมถนน ทางเข้าสำนักงานเทศบาลตำบลหันคา อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ที่ทำขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2563 ราคาอยู่ที่ต้นละประมาณ 80,000 บาท มีความเหมาะสมหรือไม่
หากต้องการให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์สูงสุด จะเป็นการดีไม่น้อยที่จะเอาแบบอย่างของอบต.บ้านใหม่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาพิจารณา เพราะทางนายกอบต.บ้านใหม่ ได้ใช้ราคาไม้ไผ่ลำละไม่กี่สิบบาท ให้ชาวบ้านช่วยกันมาทำโคมไฟไม้ไผ่จักสานเป็นสุ่มไก่บ้าง เป็นกรงนกบ้าง เพื่อให้ชาวบ้านในชุมชนมีรายได้ แสงสว่างที่ได้ สามารถส่องสว่างทางเดิน ตามตรอกซอกซอย ถนนหนทาง พอได้แสงสว่างเห็นทางเดิน เรียกได้ว่ามีความปลอดภัยเช่นกัน
ควรหรือไม่ที่จะสังคายนาเรื่องเสาไฟฟ้าที่ค่าใช้จ่ายมากกว่าประโยชน์ที่ได้รับ และนำเงินส่วนต่างมาพัฒนาด้านอื่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ต่อไป